วันศุกร์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2560

Piyo : Pilates + Yoga

ประเดิมบล็อก (KM รอบ 2) ด้วยสิ่งที่ไม่น่าจะมีใครคิดว่าผู้เขียนที่สอนในสายแฟชั่น ออกแบบ และศิลปะ จะมีความรู้เรื่องประเภทนี้ได้ขนาดนี้... แต่ความจริงคืออยู่กับกีฬา และเขียนบล็อกสารพัดหัวเล่นมาแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ปี ข้อมูลหลายอย่าง เริ่มต้นจากความผิดพลากของตัวเองผสมกับข้อมูล ซึ่งส่วนใหญ่ก็มาจากประสบการณ์ของคนอื่นเช่นกัน (มีทฤษฏีที่ไหนมั่ง ที่มันเกิดก่อนการลงมือทำจริง หรือไม่ต้องมีการพิสูจน์ก็ใช้ได้เลย ? ?)

Piyo เป็นการออกกำลังกายที่มาจาก Pilates ผสมกับ Yoga จะว่าใหม่ก็ใหม่นะ ถ้าเทียบกับ T25 ที่ฮิตเล่นกันอยู่พักนึง การผสมระหว่างการออกกำลังกาย 2 ประเภทที่เริ่มจากการฝึกช้าๆ ให้ได้ใช้กล้ามเนื้ออย่างถูกต้อง และถูกจุด มาทำให้เร็วขึ้นไม่ได้มีประโยชน์เท่าที่ควรสำหรับคนที่ชอบเรียนเองตามออนไลน์แบบไม่เคยเข้าคลาสจริงที่สอนโดยครูที่ได้ใบรับรอง ซึ่งคงมีหลายคนที่ฝึกเอง แต่ไม่ได้รู้สึกว่าเห็นผล แล้วก็พาลไม่อยากออกกำลังไปซะอย่างนั้น บล็อกนี้ ในฐานะที่ผู้เขียนเองใช้เวลาอยู่กับสาระด้านการกีฬามากกว่างานสายแฟชั่น ก็จะขอแนะนำเพิ่มเติมสำหรบคนที่อยากลองออกกำลังกายแบบผสมอย่าง Piyo นี้
  1. ก่อนจะมาเริ่มต้นออกกำลังกาย ไม่ว่าจะทำตามคลิปนี้ หรือจะคิลปใดก็ตาม ควรจะเริ่มจากการดูจนจบก่อน 1-2 รอบ เพื่อจดท่าต่างๆ (คลิปที่ดีจะมีชื่อท่าบอกไว้)
  2. ไปหาข้อมูลเพิ่มเติม ตั้งแต่เรื่องท่าที่ถูกต้อง การใช้กล้ามเนื้อที่เกี่ยวข้อง แล้วเอามาลองทำตามไปทีละท่า ช้าๆ จนร่างกายเกิดความเคยชิน (หรือเรียกว่าทำให้ร่ายกายจำ)
  3. อย่าเปลี่ยนการออกกำลัง ถ้ายังคิดว่าทำไม่ถูกต้อง แต่ถ้าทำถูกต้องแล้วรู้สึกไม่ช่วยอะไรจริงๆ แต่ละท่าจะมีการเพิ่มความยากอยู่ ใช้การเพิ่มความยากก่อนที่จะเปลี่ยนท่าที่ใช้ แน่นอนว่า ใครที่เบื่อง่าย ออกกำลังไปก็ไม่เห็นผลง่ายๆ เหมือนกัน
  4. เพิ่มความเร็วทีละนิดก่อนจะมาทำตามคลิปสอนออกกำลังกาย โดยรักษาการใช้ใช้กล้ามเนื้อ และท่าที่ทำให้ถูกต้อง ซึ่งส่วนมาก ทีมที่มาแสดงให้ดูเค้าทำกันจนเป็นความเคยชิน หรือมีการซ้อมกันมาก่อนแล้ว รวมทังข้อจำกัดต่างๆ ในการอัพโหลด (ยาวไปคนก็ไม่ดูกัน หรือบางทีเซิฟต้นสายก็ไม่ให้อัพ บางทีก็เรื่องลิขสิทธิ๋บ้าง)
สำหรับคลิปนี้ เป็นเพียง Demo หรือตัวอย่างของการออกกำลังกายแบบผสม Piyo ซึ่งก็ไม่ได้ง่ายอย่างที่เห็น หรืออย่าเพิ่งคิดว่าสั้นไป ไม่น่าจะได้อะไร ลอง.. ไปหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากเว็บเกี่ยวกับโยคะ กับ พิลาทิสได้เลย... อย่าลืม แยกท่าไปหาข้อมูลเพิ่ม แล้วฝึกช้าๆ ให้แน่ใจว่าโพสไม่ผิดแล้วเพิ่มความเร็วทีละนิดก่อน พร้อมแล้วค่อยมาทำเต็ม Loop ตามวิดีโอนี้



ขอแนะนำบางท่าเท่าที่เคยเรียน และฝึกมา

- - - - - - - - - 1 - - - - - - - - -


Warrior I --- เช็คไปทีละ Step
ขาที่อยู่หน้าวางเข่าฉาก ฝ่าเท้าหันตรง วางเท้าเต็ม อีกข้างเหยียดตรงไปด้านหลัง (ต้องตรงแบบเข่าตึงเลยนะ) วางเท้าเฉียง 45 องศากับลำตัว วางเต็มเท้า สะโพกไม่เอียง (ระวังขาที่เหยียดจะดึงสะโพกไปด้วย วิธีวัด > เอามือเท้าเอว) เก็บหน้าท้อง (ครูโยคะเค้าเรียกดึงสะดือเข้า) แล้วยืดตัวไล่มาตั้งแต่เอวถึงอก ("ยืด" ไม่ใช่แอ่น!!) เหยียดแขนตรง (ส่วนมากจะงอศอกกัน พยายามเหยียดให้ตรงจริงๆ) แต่กดไหล่ลง (ไม่ยกไหล่ขึ้นตามแขน) เงยหัวแค่สายตามองนิ้วมือตัวเองได้ก็พอ

- - - - - - - - - 2 - - - - - - - - -


Warrior II --- เช็คไปทีละ Step
ท่านี้ทำต่อจาก Warrior I ได้ แต่จะเพิ่ม.. สะโพกขึ้นจนถึงไหล่ ให้เป็นแท่งเดียวกันหันเปิดออกด้านข้าง ระวังไหล่ กับ สะโพก 2 ข้างต้องอยู่ระนาบเดียวกัน (ขาข้างที่เหยียดไปจะต้องไม่ไปดึงสะโพกให้เอียงลง + แขนที่ไปข้างหลัง ถ้าตำแหน่งถูก แรกๆ จะรู้สึกเหมือนยกสูงกว่าข้างหน้า) และหัวตั้งตรงมองไปที่ปลายนิ้วข้างหน้า (ไม่มีกระจกหลายคนหัวจะเอียงไม่รู้ตัว) .... ที่สงสัยคือท่าต่อของ Warrior II ที่บิดตัวแล้วทำ Reverse ในโยคะจริงๆ จะหันเปิดออกด้านข้างไปข้างเดียวกัน เวลา Reverse มือจะลงไปแตะขาที่เหยียดอยู่ด้านหลังได้ แต่ในคลิปนี้ ดันไปคนละด้านกัน ซึ่ง ความเห็นส่วนตัวคือ ทำไปมันก็ได้ไม่เต็มที่ ถ้าใครเอาไปทำ ลองทำทั้ง 2 แบบดูว่า แบบไหน "ได้" มากกว่า

- - - - - - - - - 3 - - - - - - - - -

Warrior III ส่วนมากจะมาจากท่า Warrior I แล้วสปริงขาหลังยกขึ้น ยากมากสำหรับคนที่ยืนขาเดียวไม่ค่อยอยู่

ฝึกยืน... เอามือยันพื้นแล้วลองยกขาข้างนึงให้สูงที่สุดเท่าที่จะทำได้ก่อน (ไม่ถึงและยืนไม่อยู่จริงๆ หาอะไรเกาะไปก่อนละกัน) ฝึกแค่ยืนท่าตัว T ให้อยู่แล้วค่อยมาปรับอีกที

ส่วนใครทำได้แล้ว... ลองเช็คดู ดึงไหล่ กับ สะโพกข้างที่ยกขาลงให้เสมอกับอีกข้าง (คือไม่บิดขึ้น) เหยียดแขนตรงไปข้างหน้าให้รู้สึกเหมือนมีใครดึง ขาด้วย ให้อยู่ระนาบเดียวกันกับแขนเป็นตัว T หู 2 ข้างอยู่ระหว่างแขน ไม่ต้องก้ม หรือเงยหน้า ให้ตามองตรงไปที่พื้น ขาข้างที่ยืนถ้ายืนได้ให้เหยียดตรง วางเต็มฝ่าเท้า

เทคนิคยืนให้อยู่... ดึงสะดือเข้า (เก็บหน้าท้อง) เกร็งหน้าท้องไว้ + เก็บก้น (ภาษาบัลเล่ต์ ถ้าภาษาบ้านๆ เรียกขมิบตูดมั้งนะ) **แต่ไม่ได้ห้ามกลั้นหายใจนะ...

- - - - - - - - - 4 - - - - - - - - -

Seat Twist Spine ขัดใจอีท่านี้มากๆ คือมันเร็วมากจนเรียกว่าถ้าร่างกายไม่ร้อน มีสิทธิ์หลังเดี้ยงได้เลย... และไม่ใช่นั่งไข้วขาเฉยๆ เพราะท่าเต็มมาจาก... ขา 2 ข้างเหยียดตรง ไขว้ขาพับไปอีกข้างเอาเท้าวางที่พื้นข้างเข่าด้านนอก ร่นขึ้นมาต้นขานิดๆ พับขาอีกข้างเข้ามาข้างในให้ฝ่าเท้าใกล้ก้นที่สุด วางเท้าสบายๆ เพราะฉะนั้นสะโพกจะไม่มีการขยับหรือบิด


บิดไม่ไป ? หันแล้วตัวไม่ชิดขา ?...
ดึงสะดือเข้า (เก็บหน้าท้อง) ก่อนแล้วค่อยๆ เอวถึงเป็นแนวเดียวกัน หันไปพร้อมๆ กัน อาจจะฝึกแค่บิดตัวอย่างเดียวก่อน... ใช้เก้าอี้มีพนักพิงช่วยแทน > นั่งหันข้างบนเก้าอี้มีพนักพิง บิดตัวกันไปจับพนักพิง (เก้าอี้ดีไซน์มาให้รับก้นระวังจะทำให้เจ็บก้นแทน หาเก้าอี้เรียบๆ มาใช้นะคะ 555)



แขนไขว้ขาไม่ได้ ?
ยืดมาข้างหน้าไกลๆ ก่อนค่อยลดศอกลงแล้วล็อกเข่าไว้ (ยังไม่ต้องล็อกลงมาลึกถ้ายังทำไม่ได้)

- - - - - - - - - 5 - - - - - - - - -

Push Up อย่าว่าแต่คนไม่แข็งแรงเลย 3 ที แต่ถี่ๆ แบบนี้ ตัวผู้เขียนเองทำ 10 ทีติดกันได้ บางทียังไม่ไหวเลย !!!

เวรี่ บีกินเน่อร์... : หากำแพงเป็นคู่หูไปก่อน ยืนห่างพอที่เขนจะเหยียดตรงวางฝ่ามือได้พอดี เอนตัวเข้าหากำแพงงอศอกลงข้างตัว (ถ้ากางออกระวังได้กล้ามแขนก่อนจะได้อก) ระยะของการเอนเข้าหากำแพง แรกๆ ไม่ต้องเอนขนาดศอกพับก็ได้ ข้อมือแข็งแรงขึ้นค่อยเพิ่มระยะทิ้งตัว

บีกินเน่อร์... : ทำแบบเดียวกัน แต่ไต่ระดับลง มาโต๊ะสูง ลงมาเก้าอี้สูง เก้าอี้ปกติ โต๊ะเล็ก แล้วลงพื้น

อินเทอร์มีเดียด... : ลงพื้น เอาเข่ายัน (รองผ้าด้วย) ก่อนได้ แล้วค่อยๆ พยายามเหยียดตัวตรงแบบ Plank ถ้าจะให้ดีระหว่างที่ฝึกวิดพื้นแรกๆ ทำ Plank เพิ่มระยะเวลาค้างไปด้วย

แอดวานซ์ (เฉพาะคนอยากลอง) : มืออยู่พื้น ขาอยู่เก้าอี้ / วิดพื้นมือเดียว (อยากได้มากกกก)

ซุปเปอร์แอดวานซ์ (นี่คือ เขียนเล่นแล้วนะ 555) : Handstand Push-up โลดดด



จริงๆ ก็มีท่ามากกว่านี้ ลองหาข้อมูลเพิ่มเติมเองได้คร่าาาาา ^ ^

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น